–
สิบกว่าปีก่อน ผมเคยได้ไปเที่ยวที่เมืองฮิโรชิม่ามาแล้ว สิ่งที่ประทับใจคือเรื่องราวในอดีตอันแสนเจ็บปวดของชาวญี่ปุ่น การได้เข้าไปดูพิพิธภัณฑ์ของเขามันเหมือนทำให้เราได้เข้าถึงความรู้สึกบางอย่างที่เราไม่มีโอกาสได้เห็นด้วยความที่มีโอกาสมาญี่ปุ่นบ่อยครั้ง เกิดความเบื่อเมืองโตเกียว ก็เลยคิดว่าจะลองไปที่แปลกๆดูบ้างอยากได้มุมมองใหม่ๆ ครั้งที่แล้วก็ดั้นด้นถ่อไปเมือง Shimoda อันเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่ทำให้ญี่ปุ่นต้องเปิดประเทศเมื่อ 160 ปีก่อน ครั้งนี้เลยคิดว่า ลงไปทางใต้เลย นางาซากิ นี่แหละ
ก็เลยตั้งต้นที่หาเครื่องบินไปลงที่เมือง Fukuoka แต่หาเครื่องไม่ได้ เลยมาลงที่ Osaka แล้วนั่งชินกันเซ็นลงไปที่เมือง Fukuoka แล้วหาทางต่อไปที่ Nagasaki อีกที
เริ่มเลยครับ
เมื่อมาถึงสนามบินคันไซ มีสองอย่างที่เราต้องทำนั่นคือ
1. จัดการเปลี่ยน Voucher ของ JR Pass ให้กลายเป็นบัตรพิเศษ ไปไหนไม่ต้องจ่ายเงินค่าเดินทางเลยใช้ได้จากรถไฟทั่วไป ไปจนถึงรถชินกันเซ็นเลยครับ วิธีการซื้อ JR Pass
2. จัดการเช่าอุปกรณ์ปล่อย WiFi เพื่อทำให้เราสามารถใช้ Smart Phone/Tablet ของเรา
ที่ความเร็ว 4G ทุกที่ที่คลื่นเค้าไปถึง
เมื่อได้ตั๋วแล้วได้อุปกรณ์สำคัญแล้ว ที่นี้ก็เดินทางครับ มายืนคอยที่ชานชลาของรถไฟชินกันเซ็นเพื่อไปยังเมือง Fukuoka โดยจะไปลงที่สถานี Hakata ครับ
จากการดูแผนที่แล้ว จาก Hakata ไปยังเมือง Nagasaki ยังอีกไกลทีเดียวดังนั้นจึงเอากระเป๋าใหญ่เก็บไว้ที่สถานี Hakata ที่ Coin Locker แล้วแบ่งเสื้อผ้าไปที่กระเป๋าเล็กเพื่อกะไปค้าง 2 คืนพร้อมอุปกรณ์ทำงานต่างๆ
เมื่อตัวเบาแล้วก็เริ่มเดินทางต่อครับ ไปที่รถไฟของทางเกาะ Kyushu เค้าเองแน่นอนครับ เราไม่ต้องซื้อตั๋ว เพราะเราได้ใช้ตั๋ว JR Pass ของเราแล้ว รถไฟทางใต้ก็หน้าตามู่ทู่แถมสีก็แปลกๆดีครับ
ดูวิวระหว่างทางกันหน่อยครับ
ด้วยความที่การเดินทางจากสถานี Hakata ไปยัง Nagasaki นั้นมีช่วงที่ผ่านทะเลจึงทำให้มีช่วงที่เห็น
วิวทะเลสวยๆอยู่หลายช่วงเสียดายที่เป็นช่วงเย็นจึงไม่ได้เก็บภาพมาครับ
เมื่อมาถึงสถานีรถไฟที่ Nagasaki ก็ต่อรถแท็กซี่เพื่อไปที่โรงแรม เจอคนขับรถแท็กซี่ที่มีนำใจมาก
กลัวว่าเราจะมาผิดโรงแรมมายืนรอจนมั่นใจว่า เรามาถูกที่ก็ค่อยกลับไป
เรื่องราวที่น่าสนใจและเป็นสิ่งดึงดูดให้มาที่เมือง Nagasaki นี่ก็คือเรื่องราวของการเป็น
อีกเมืองนึงที่โดนระเบิดปรมาณู ดังนั้นที่ที่จะให้ความเข้าใจต่อเรื่องนี้ได้ดีที่สุดก็คงต้องเป็นที่
พิพิธภัณฑ์ Nagasaki Atomic Bomb Museum ครับ
ทางเดินวนลงไปยังที่แสดงของพิพิธภัณฑ์
นาฬิกาที่หยุดเดินเมื่อเวลา 11:02 น.ของวันที่ 9 สิงหาคม 2588
ป้ายที่เราเรื่องราวของเมือง Nagasaki นางาซากิ ก่อนเวลา 11:02 น.ของวันที่ 9 สิงหาคม 2588
Model ที่ตั้งใจทำเพื่ออธิบายว่า อะไรเกิดขึ้นในห้วง 3 วินาทีนั้น จุดที่แดงๆคือจุดที่ระเบิดปรมาณู Fatman ถูกหย่อนลงมา
และระเบิดที่ระดับความสูง 500 เมตรเหนือพื้นดิน
เจ้าระเบิด Fatman ที่นำมาทิ้งที่ Nagasaki เป็นระเบิดที่มีขนาดใหญ่กว่าเจ้า Ebola ที่นำไปทิ้งที่ Hiroshima เสียอีก แต่ด้วยความที่เมือง Nagasaki เป็นภูเขาล้อมรอบจึงลดความเสียหายของชีวิตไปเยอะ ดูจาก Model ข้างบนนะครับ
ภาพหลังเหตุการณ์
การเล่าจะเล่าถึงความเสียหายที่มีต่อ สิ่งปลูกสร้าง คน และบอกว่า ที่ระยะกี่กิโลเมตรจากจุดที่ระเบิด เกิดอะไรขึ้นบ้าง
เพื่อให้ผู้เข้าชมได้จินตนาการสิ่งที่เกิดขึ้น ทางพิพิธภัณฑ์ได้ทำ Observatory Deck เพื่อมองเห็นเมืองในมุมที่สามารถจินตนาการได้ว่า ลูกระเบิดหย่อนลงมาตรงไหน ระเบิดที่กลางฟ้าตรงไหน และ เปรียบเทียบกับมุมจริงในปัจจุบัน
เมื่อลงมาจากพิพิธภัณฑ์ ก็จะเดินมายังจุดที่ลูกระเบิดลงครับ ปัจจุบันเค้าอนุรักษ์พื้นที่ตรงนั้นให้เป็น อนุสาวรีย์
นางาซากิ Nagasaki Epicenter Ground Zero Momume
ที่เหนือจากพื้นขึ้นไป 500 เมตร จากอนุสาวรีย์นี้คือ จุดที่ระเบิดกลางอากาศเหนือเมือง Nagasaki
มองจากข้างนอกเข้าไปยังอนุสาวรีย์ เอาล่ะลองออกไปนอกเมืองกันบ้างดีกว่านั่งรถไฟย้อนขึ้นไปทางเหนือกันครับ เส้นทางต้องผ่านทะเลเสียด้วยมาดูกันครับว่า ทะเลยามเย็นบรรยากาศเป็นอย่างไร
แผนที่การเดินทาง ใช้ Google Map ตลอดเวลาเลยครับ

นางาซากิ Nagasaki เสน่ห์เกาะใต้ของญี่ปุ่น
พระอาทิตย์ตก
พระอาทิตย์ตกน้ำ

นางาซากิ Nagasaki เสน่ห์เกาะใต้ของญี่ปุ่น
สถานีรถไฟที่ติดทะเลที่สุดเลยครับ สวยมาก ลมเย็นสบาย
สถานีรถไฟที่ติดทะเลที่สุดเลยครับ สวยมาก ลมเย็นสบาย
Theme Park ที่ชื่อว่า Huis Ten Bosch แต่งให้เป็นแนวของฮอลแลนด์เพื่อเป็น Theme Park ที่มีชื่อเสียงมากใน Nagasaki โดยอิงกับประวัติศาสตร์ว่าเคยมีชาวฮอลแลนด์มาใช้เมือง Nagasaki เป็นแหล่งค้าขายในอดีต
Huis Ten Bosch Station, Nagasaki @ Trachoo.com
กลับออกมาด้านข้างสถานีมีโรงแรมอีกแห่งนึง มีร้านอาหารแบบบุฟเฟต์ เข้าไปทานมีปูอลาสก้าให้กินแบบไม่อั้น หัวละพันกว่าบาทครับ
ได้เวลาเดินทางกลับเพื่อไปที่อื่นต่อก็เช็คเอาท์ออกจากโรงแรมครับโรงแรมน่ารักๆใกล้สถานี Isahaya Station เพียงแค่ 300 เมตร เดินไปมาสดวก โรงแรมชื่อ New Station Hotel ครับ
รถไฟสดวกสบายและดูดีมากๆครับ
บรรยากาศระหว่างทางมีทุ่งหญ้าทางด้านซ้าย ทางขวาเป็นทะเล
ผมชักหลงไหลบรรยากาศแบบนอกเมืองหลวงของญี่ปุ่นจริงๆครับ มันสงบ สบาย ผู้คนมีน้ำใจ มีความสุขกับวันเวลาที่อยู่กับปลอดโปร่งแบบนี้ครับ มีวิดีโอมาฝากก่อนจบบล็อกครับ