ตำนานการตลาด “โค้ก” ในเมืองไทย ในความทรงจำของผม

ในฐานะคนที่มีอายุ 49 ปีในอีกไม่กี่วันอย่างผม กิจกรรมโค้กที่มีชื่ออยู่บนกระป๋อง (ที่มอบให้ผมโดยเพื่อนคนแรกของชีวิต ที่อายุ 49 ปีเท่ากัน) ทำให้ผมรื้อฟื้นความทรงจำที่มีต่อโค้ก และมันก็กรุ่นในความทรงจำได้เป็นอย่างดี มันคือ ตำนานการตลาดของโค้ก ของผมเลยครับ

——————————————————————————————————————————————————————–

และด้วยการรวบรวมเรื่องราวของโค้กโดยผู้อื่นในระบบอินเตอร์เนท มันทำให้ผมสามารถรื้อฟื้นและเรียบเรียงความทรงจำของผมกับโค้กได้อีกครั้งนึง ขอขอบคุณทุกแหล่งภาพ ผมได้ให้เครดิตไว้ข้างทุกภาพแล้วนะครับผม

——————————————————————————————————————————————————————–

ตำนานการตลาดของโค้ก เริ่มจากตอนประมาณ 7 ขวบ หรือในปี 1971 โค้กปล่อยโฆษณานี้ออกมา ผมเริ่มติดตากับโฆษณาชุดนี้ครับด้วยเพลงที่ดังมากเพลงนึงในยุค ปี70 โค้ก เข้ามาอยู่ในความทรงจำของผมทันที ที่สำคัญ มีขวดภาษาไทยด้วยครับ

เดิมทีในวัย 6-7 ขวบตอนนั้น พ่อแม่ก็ให้ผมดื่ม กรีนสปอต ไบเล่ย์ ไวตามิลค์ แต่พอโฆษณานี้เข้ามาเท่านั้น ความสนใจของผมเริ่มเทไปให้โค้กอย่างทันที อิทธิพลของการโฆษณาที่โดนใจครับ

——————————————————————————————————————————————————————–

ต่อมา สิ่งที่โค้กทำและจับใจคนไทยจำนวนมากอย่างทันทีและรุนแรงและต่อเนื่องคือการเข้าสนับสนุนนักมวยขวัญใจคนไทย แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ นักมวยที่คนไทยเชื่อว่า ขอหมัดเดียวชนะแน่นอน จิตใจของคนไทยในปี 2518-2519 ผูกพันกับนักมวยที่สร้างชื่อให้กับคนไทยแน่นอน โค้กก็เข้าไปอยู่ในใจคนไทย พร้อมๆกับนักมวยท่านนี้ไปด้วย บ้านผมหันมากินโค้กกันทั้งบ้าน เพราะกิจกรรมนี้ แน่นอนว่า กลยุทธ์การตลาดนี้ก็เป็นหนึ่งใน ตำนานการตลาดของโค้ก แน่นอนครับ

ขอบคุณภาพจาก เวป cokethai.com

——————————————————————————————————————————————————————–

ต่อมาโค้กก็ได้ทำโฆษณาอะไรต่างๆของเขาไปเรื่อยๆ และมีการออกผลิตภัณฑ์ในขวดแบบใหม่ขนาด 1 ลิตร ผมหาภาพไม่ได้แต่จำได้ติดตาว่า เป็นโปสเตอร์โค้กขวด 1 ลิตรที่แสดงความใหญ่ด้วยการเอาไปเทียบกับตึก ดุสิตธานี ที่เป็นตึกที่สูงที่สุดในเมืองไทยในวันนั้นจำได้ว่า วันแรกที่ออกมาขาย ผมเห็นคนๆนึงนั่งกินอยู่คนเดียวจนหมดขวด คงเพราะขวดขนาด 1 ลิตรวันนั้น มันแปลกใหม่จริงๆครับ

——————————————————————————————————————————————————————–

 

ผมเริ่มผูกพันกับโค้กมากขึ้นทุกวัน ด้วยความที่การเดินทางไปโรงเรียน ใช้ถนนหัวหมากจากคลองจั่นจึงต้องผ่านโรงงานที่ผลิตโค้ก คือ ไทยน้ำทิพย์ หัวหมากเมื่อก่อนทุกวันแม้กระทั่งการฝึกงานในมหาวิทยาลัย ผมก็ได้มาฝึกงานที่โรงงานแห่งนี้ที่แผนก QC และ บำบัดน้ำเสียได้กินโค้กฟรีทุกวันเลย

——————————————————————————————————————————————————————–

ในห้วงเวลาที่ค่ายเพลงกำลังเกิดขึ้น โค้กก็ไม่ช้าที่จะเข้าร่วมสนับสนุนปกเทปทันที ปกที่มีความโดดเด่นและมีความคลาสสิคที่สุดในสายตาของผมคือ อันนี้ครับ

 กระแสคาราบาว และ เมดอินไทยแลนด์ กระหึ่มแม้กระทั่งรายการวิทยุแห่งประเทศไทยยังเอามาเปิดเพื่อกระตุ้นการสนับสนุนสินค้าของไทยกันเองกระแสคาราบาวดังสุดขีด โค้กทำโปสเตอร์นี้ออกมา มีคนบอกผมว่า ถ้ามีให้บอกเค้าด้วยเขายอมจ่ายราคาหลักหมื่นทีเดียวสำหรับโปสเตอร์ใบนี้ครับ ตำนานการตลาดของโค้ก ก็ก้าวเข้าสู่อีกมิตินึงอย่างประสพความสำเร็จ

โค้กเหมือนจะจับทางได้ว่า Music Marketing ในวันนั้นคือเครื่องมือที่จะนำความสำเร็จมาให้โค้ก โค้กไม่รีรอที่จะทำงานร่วมกับแกรมมี่ และร่วมสนับสนุนแกรมมี่ในวันที่ค่ายดนตรีใหม่แห่งนี้ กำลังมาแรงที่สุด ในวันที่ทุกคนต้องซื้อเทปเพื่อฟังเพลงจากศิลปินเหล่านี้ปกเทป เป็น Real Estate ที่แพงที่สุดเลยก็ว่าได้ และ โค้กก็เข้าไปอยู่ในใจคนอย่างหนาแน่น

 

 

แหล่งภาพ คลิก

โค้กใช้ Music Marketing ในวันที่ Music มีพลังสูงสุดทางการตลาด มาดูโฆษณาชุดนี้กันครับผมว่า สุดๆแล้ว ในวันนั้น

——————————————————————————————————————————————————————–

ความคิดสร้างสรรค์ของโค้กทะยานไปข้างหน้าอย่างไม่มีหยุด ในวันที่ผมทำงานโฆษณาแล้วโค้กปล่อยโฆษณานี้ออกมา มันได้รางวัลการโฆษณาอย่างล้นหลามในหลายๆ Categoryของการโฆษณา ด้วยแนวคิดว่า “โค้กเข้าใจเด็กที่เด็กเองเชื่อว่า ผู้ใหญ่ไม่มีวันเข้าใจพวกเค้า” โฆษณาตัวนี้ ดังถล่มทลายครับ

และเมื่อเมืองไทยได้เป็นผู้จัดซีเกมส์ โค้กก็แหวกแนวการโฆษณาอีกครั้งแทนที่จะพูดว่า

“โคคา-โคล่า ผู้สนับสนุนการจัดซีเกมส์อย่างเป็นทางการ”

โค้กเลือกที่จะพูดว่า

“โคคา-โคล่า เชียร์ขาดใจ”

ลองดูโฆษณาเรื่องนี้กันเลยครับ

——————————————————————————————————————————————————————–

ต่อมา โลกก็เข้าสู่ยุคของมือถือ และ อินเตอร์เนท ความสนใจของประชาชนผู้บริโภคก็ย้ายความสนใจจาก น้ำอัดลม ไปสู่เรื่องราวของ เพจเจอร์ มือถือ คอมพิวเตอร์ โน็ตบุคและอะไรอีกมากมาย น้ำอัดลมกลายเป็นเรื่องพื้นๆไปแล้ว กิจกรรมทางการตลาดที่ทำออกมาของค่ายน้ำอัดลม ก็ไม่เคยอีกเลยที่จะเกิดความดังระดับ Talk of the Town แบบเดิม

——————————————————————————————————————————————————————–

แต่ค่ายน้ำอัดลมก็ไม่เคยหยุดที่จะแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดกัน ต่างฝ่ายต่างจัดกิจกรรมออกมาสารพัด แต่ก็ไม่เคยที่จะดังเป็น Talk of the Town อีก จนกระทั่งกิจกรรมนี้

ที่โค้กเปลี่ยนแนวคิดการทำการตลาด จากการ”เรียกร้อง”ความสนใจจากผู้ดื่มมาเป็นการ “ให้” ความสนใจกับผู้ดื่ม ด้วยการนำเอาชื่อเล่นของเค้ามาอยู่บน

ผลิตภัณฑ์ ผมดูแล้วเห็นว่ามีศักยภาพของความสำเร็จที่สูงมาก ทั้งนี้เพราะสังเกตุจากไม่เคยมียุคไหนเลยที่จะเห็นผู้บริโภค โพสต์ภาพขวดน้ำอัดลมโชว์กันบน

โซเชียลเนทเวอร์ค กันอย่างแพร่หลาย เราจะเคยเห็นแต่การโพสต์อาหาร ขนมน่าทาน แต่ ไม่เห็นใครโพสต์รูปน้ำอัดลม จนกระทั่งครั้งนี้ครับ

——————————————————————————————————————————————————————–

ผมที่เลิกติดตามกิจกรรมทางการตลาดของโค้กมานานแล้ว ก็กลับโดนกิจกรรมนี้กระชากความรู้สึกให้ผมกลับมามองโค้กอีกครั้ง ในฐานะเพื่อนที่รู้จักกันมานานแสนนานและ คนที่กระชากความรู้สึกนี้ให้กลับมาก กลับเป็นเพื่อนเก่าคนแรกของชีวิตผมเสียด้วยซ้ำ

ขอบคุณมากครับ คุณ Prakon PM

ประวัติของ กูลิโกะ คลิก

ประวัติ 7-11