ในปี 1919 นาย Ri-ichi Ezaki ริ-อิชิ อีซากิ ผู้ที่เป็นผู้ก่อตั้งบริษัท กูลิโกะ
แกเคยอ่านหนังสือพิมพ์ลงข่าวว่า Glycogen ที่สะสมอยู่ในหอยนางรม เป็น
สารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก นายอีซากิ จึงไปขอซื้อมาจากชาวประมง
ที่กำลังต้มหอยนางรม และเอา Glycogen ไปเข้าที่ห้องทดลองของ โรงพยาบาล
ของ มหาวิทยาลัย คิวชู อิมพีเรียล
การทดลองยังไม่ทันได้ผลอะไรออกมา ลูกชายของนายอีซากิ เกิดเป็นโรคไทฟอยด์
หมอไม่รู้จะรักษาได้อย่างไร เมื่อสิ้นหวังดังนั้น ผู้เป็นพ่ออย่างนายอิซากิ ก็อนุญาตหมอ
ขอให้ลูกชายได้มีโอกาสได้กิน Glycogen ที่สกัดออกมาจากหอยนางรม
ปรากฏว่า ลูกชายแกหายป่วยจริงๆ นายอีซากิจึงเกิดความคิดว่า ถ้าเด็กของญี่ปุ่นได้มีโอกาส
กิน Glycogen นี้แบบง่ายๆ เด็กญี่ปุ่นน่าจะแข็งแรง ไม่ป่วยง่าย นายอีซากิ จึงคิดที่จะเอา
Glycogen นี้ใส่ลงในคาราเมลล์ หรือน้ำตาลเหนียวๆ และทำออกมาขาย
ด้วยความที่ Glycogen เป็นสิ่งที่ดีมาก แกจึงตั้งชื่อสินค้าว่า Glyco หรือ Glico
ในภาษาญี่ปุ่นอ่านว่า กูลิโกะ และใส่ในกล่องแบบนี้ สินค้าและบริษัทของแกจึง
มีชื่อว่า Ezaki Glico จากนั้นเป็นต้นมา
เรื่องโลโก้นี้ แกได้ไอเดียมาจากการที่เห็นเด็กวิ่งแข่งกัน และ วิ่งเข้าเส้นชัย
คนที่ชนะจะชูแขนขึ้น แกจึงเอามาเป็นสัญญลักษณ์ของการบอกว่า แข็งแรง
และสัญญลักษณ์คนวิ่งเข้าเส้นชัยนี้ก็ถูกเก็บรักษาให้เป็นโลโก้ของ Glico ตลอดมาครับ
ขนมที่มี Glycogen คือ Glico Caramel Candy เม็ดรูปหัวใจครับ
หลายปีต่อมา สีของกล่องและโลโก้นี้ก็ได้ถูกพัฒนาต่อมาอย่างที่เราเห็นกัน
ต่อมา บริษัทก็ได้ออกสินค้าที่ทำให้บริษัทมีชื่อเสียงมากถึงทุกวันนี้ นั่นก็คือ
กูลิโกะ ป๊อกกี้ ที่เรารู้จักกันดี แทบจะไม่มีใครไม่เคยทานเจ้าขนมชนิดนี้แน่ๆ
ในปี 1970 กูลิโกะก็เริ่มออกมาตั้งโรงงานนอกประเทศญี่ปุ่น โดยเลือกประเทศไทย
เป็นประเทศแรกเลยครับ ใครที่เกิดทันคงจำกันได้ว่า ป๊อกกี้ เป็นขนมที่แพงมาก
———————————————————————————
เรื่องน่ารู้บางเรื่องของ กูลิโกะ ป๊อกกี้
ที่ยุโรปเรียกป๊อกกี้ว่า มิกาโดะ Mikado
แต่ที่มาเลเซีย เรียก ร็อคกี้ Rocky เพื่อไม่ให้พ้องกับคำว่า Porky ที่แปลว่าหมู
วัฒนธรรมที่ฮิตกันในวัยรุ่น Pocky Kiss เกิดขึ้นมาตามวัฒนธรรม Spaghetti Kiss ของอิตาลี
Pocky ถูกนำไปใช้ความคิดสร้่างสรรค์ เพื่อทำเป็นขนมเค้กได้อย่างน่ากินทีเดียวครับ
ทุกวันนี้ Pocky มีหลากหลายรสชาติที่แสนอร่อย ให้ทานกันได้อย่างไม่รู้เบื่อกันเลย
ถ้าสนใจ อ่าน “ตำนานการตลาดโค้กเมืองไทย” กันต่อ คลิกเลยครับ