ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นมีความมั่นใจตัวเองถึงขีดสุด บุกไปถล่ม
ฐานทัพเรือของสหรัฐอเมริกาถึงเพิร์ล ฮาร์เบอร์ ประกาศสงครามมหาเอเชีย
บูรพา ซ่าไปทั่วเลย กวาดต้อนเชลยประเทศไหนต่อประเทศไหนจากทั่วโลก
มาเป็นทาสแรงงาน (อ่านบล็อกเรื่องนี้ก่อนหน้านี้ คลิก)
สหรัฐอเมริกาก็เริ่มตั้งตัวเป็นพี่ใหญ่ของโลกจากงานนี้แหละครับ หลังจากขู่เยอรมัน
ให้สงบศึกด้วยคำขู่ว่าจะโดนอาวุธนิวเคลียร์ เยอรมันก็ยอมโดนดี สหรัฐอเมริกา
ก็หันมาทางญี่ปุ่น บอกให้ยุติสงครามเสีย ญี่ปุ่นไม่ฟัง สหรัฐอเมริกาเลยแสดง
แสนยานุภาพไปสองเมือง
สงครามก็จึงยุติลงได้ สหรัฐอเมริกาเข้าจัดการประเทศญี่ปุ่นด้วยการบังคับให้รัฐธรรมนูญ
กำหนดห้ามมีทหาร หากมีการส่งทหารออกนอกประเทศถือเป็นการผิดกฏหมาย
สิ่งที่ญี่ปุ่นจะมีได้คือ “กองกำลังป้องกันตนเอง” หรือที่เรียกว่า “Self Defense Force”
กองกำลังพวกนี้ก็เก่งครับ แต่ ออกไปรบนอกประเทศไม่ได้นอกจากภาระกิจที่ได้รับง
การร้องขอจากสหประชาชาติ เช่นเหตุการณ์ในตะวันออกกลาง
นาย ชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีสายเหยี่ยวผู้นี้ มีความคิดมานานแล้วว่า ถึงเวลา
แล้วที่รัฐธรรมนูญข้อนี้จะต้องเปลี่ยนเสียที โดยนำเอาเหตุที่ว่ากำลังมีปัญหากับ
จีนและเกาหลี เรื่องกรณีพิพาทหมู่เกาะทางใต้เข้ามาเป็นประเด็น
อันที่จริงประชาชนก็ยังเข็ดกับเรื่องราวของสงครามโลกครั้งที่สอง อยู่ครับ
เค้าพยายามกดไม่ให้การทหารโต ด้วยการกำหนดเพดานว่า ค่าใช้จ่ายทางการทหาร
จะต้องไม่เกิน 1% ของ GDP รวมของญี่ปุ่น แถมยังเรียก SDF ว่า “พวกเปลืองภาษี”
เมื่อประชาชนยังไม่ให้การสนับสนุน การทหารจะก้าวหน้าได้อย่างไรถ้างบประมาณ
ไม่ขึ้นมาเกินเพดานให้มาทำการขยายกองกำลัง
นายชินโสะ อาเบะ จึงสั่งการให้ทำการปรับปรุงภาพลักษณ์ใหม่ให้กับกองกำลัง
ป้องกันตนเอง (SDF) ทันที
ก่อนที่จะทำอะไรอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ก็เกิดเหตุการณ์ Tsunami ขึ้นมาเสียก่อน
แต่ทว่ามันกลับเป็นสิ่งที่ร่วมสร้างภาพพจน์ให้กับ SDF เพราะ กองกำลังของ SDF
นี่เองที่เข้าไปช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสพภัย ภาพข่าวออกไปทั่วประเทศสร้าง
ความรู้สึกดีต่อ SDF เป็นอย่างมาก
ต่อมานาย ชินโสะ อาเบะ ได้สั่งเดินหน้าเต็มสูบเพื่อสร้่างภาพพจน์ให้กับ SDF
เต็มที่ มาดูกันครับ
ทำรายการโทรทัศน์เพื่อสร้างภาพพจน์ให้กับกองกำลังทางอากาศ เป็นละครเชียวครับ
บางรายการโทรทัศน์ก็ไปเก็บภาพชีวิตการฝึกของกองกำลัง SDF ก็มี
มีดาราตลก ไปร่วมฝึกด้วยก็มีครับ เอาจริงเอาจังมาก
กิจกรรมเปิดโอกาสให้สาวๆได้ขึ้นไปเจอหนุ่มๆบนเรือ เพื่อสร้างความรู้สึกที่ดีกับกองกำลัง
ทางเรือ แหม่ ลึกซึ้งจริงแฮะ เล่นกลุ่มเป้าหมายสาวๆกันเล้ย
นาย อาเบะ เองก็ขึ้นไปบนเครื่องบินเพื่อถ่ายภาพเพื่อสะท้อนให้เห็นว่า ตน
สนับสนุนเรื่องนี้จริงๆ
มีแม้กระทั่ง เกมส์ออนไลน์เพื่อสร้างความใกล้ชิดสนิทสนมกับประชาชน
คนรุ่นใหม่
แม้กระทั่งโคนัน ก็ยังถูกดึงมาช่วยภาระกิจของนายชินโสะอาเบ อยากทราบ
รายละเอียดล่ะก็เชิญ คลิก ไปอ่านบล็อกของคุณจีระนันท์ แฟนพันธุ์แท้การ์ตูนญี่ปุ่นได้เลยครับ
ผลจากความพยายามดังกล่าว ชาวญี่ปุ่นก็เริ่มมีทัศนคติที่ดีต่อกองกำลัง SDF
มากขึ้น ก็เป็นไปตามการวางแผนของนายอาเบะทุกประการ
เรื่องนี้ท่าทางจะไม่ธรรมดาเสียแล้ว เพราะเมื่อเห็นความพยายามอย่างเป็น
รูปธรรมที่ต่อเนื่องและครอบคลุมทุกสื่่อ ทั้งออฟไลน์ และ ออนไลน์เต็มที่
เมื่อชาวญี่ปุ่นลดการต่อต้านลง เงินสนับสนุนก็จะมากขึ้น
ทหารญี่ปุ่นก็จะผงาดในย่านนี้อีกที เพื่อมาคานอำนาจกับมหาอำนาจ
หน้าใหม่ อย่างจีน ญี่ปุ่นเองก็มีความน่ากลัวในอดีตอยู่แล้ว อีกทั้ง
ความมีวินัยและความรักชาติจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก คงทำให้ไม่ใคร
ต่อใครก็ต้องหนาวกันบ้างละครับ
นี่แหละครับที่ผมจั่วไว้ว่า
การเมืองระหว่างประเทศ-การเมืองภายในประเทศ-งบประมาณประจำปี-รัฐธรรมนูญ-การตลาด-ประชาสัมพันธ์
มันเป็นเรื่องที่รัฐบาลญี่ปุ่นเรียงร้อยมาเป็นอย่างดีเพื่อเป้าหมายสำคัญอันนึงคือ
“การกลับมามีกองทัพเป็นของตัวเองอีกครั้ง”