ญี่ปุ่นคง”ยังไม่ยกเลิก” การเข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า

*

หลังจาก 1 กรกฎาคม 2556 เป็นต้นมา คนไทยที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็ได้เฮเมื่อประเทศญี่ปุ่นได้ทำการอนุมัติให้คนไทยสามารถเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า โดยสามารถพำนักในประเทศญี่ปุ่นได้ด้วยพาสปอร์ตเป็นระยะเวลา 15 วัน

แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นานก็มีข่าวกระเส็นกระสายออกมาตลอดเวลาถึง จำนวนคนไทยที่เข้าประเทศญี่ปุ่นแบบไม่ได้ขอวีซ่า แล้วอยู่เกิน 15 วันไปเลย เป็นจำนวนมากขึ้นๆจนล่าสุดบางกระแสข่าวบอกว่าอาจจะถึง 1 หมื่นคนไปแล้ว

ข่าวนี้ทำให้เกิดกระแสความสงสัยว่า รัฐบาลญี่ปุ่นอาจมีการยกเลิกนโยบายข้อนี้ แล้วเราต้องกลับไปขอวีซ่ากันใหม่ เพื่อลดจำนวนผู้หลบหนีอยู่ในเมืองอย่างไม่ได้รับอนุญาต

จนกระทั่งผมมาพบข่าวเหล่านี้ครับ

ตัวแทนจากเกาะ คิวชู

ตัวแทนจากเกาะ คิวชู

ตัวแทนจากเกาะ Okinawa

ตัวแทนจากเกาะ Okianawa

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือ JNTO

องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือ JNTO

เป็นข่าวประชาสัมพันธ์ที่ทำให้รู้ว่า ในช่วงเดือน สิงหาคม-กันยายนที่ผ่านมา มีตัวแทนจากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือ JNTO ร่วมกับตัวแทนจากเมืองต่างๆ จากเกาะต่างๆของประเทศญี่ปุ่นได้เดินทางเข้ามาทำการสัมมนาเพื่อปลุกกระแสความสนใจในการไปเที่ยวเมืองต่างๆนอกเส้นทางที่คนไทยนิยมไปกัน ยกตัวอย่างเช่น ในภาพข่าวที่ได้มานี้ เป็นตัวแทนจากเกาะ Okinawa ตัวแทนจากเกาะคิวชู ตัวแทนองค์กรโรงแรม และองค์กรด้านการท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่น เดินทางมาให้ข้อมูล สร้างความสนใจกันอย่างพร้อมเพรียง

ล่าสุดผมเองก็มีเพื่อนชาวญี่ปุ่นที่เดินทางมากรุงเทพกับคณะนักธุรกิจเกือบ 30 คนจากเมือง Okayama เพื่อหาทางศึกษาลู่ทางการโปรโมทดึงคนไทยให้ไปยังเมือง Okayama และเมืองใกล้เคียง

แม้กระทั่งการบินไทยก็จะมีการเปิดสายการบินตรงไปยังเมือง Sendai ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ทั้งหมดนี้เพื่อเป็นการเปิดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ๆของประเทศญี่ปุ่นให้กับคนไทย เพราะประเทศญี่ปุ่นเองยังมีเมืองและสถานที่ที่น่าเที่ยวอีกมากมาย เมื่อมีการยกเลิกการขอวีซ่าไปแล้ว คนไทยก็จะต้องไปกันมากขึ้นคนที่เคยไปแล้วก็คงอยากจะไปอีกและอยากไปที่ใหม่ๆ

ด้วยความได้เปรียบของญี่ปุ่นอย่างนึงคือปัจจัยด้าน อาหาร อากาศ ระยะเวลาการเดินทาง และความคุ้นเคยในวัฒนธรรมญี่ปุ่นของคนไทย จึงทำให้เชื่อได้ว่า ปัจจัยเหล่านี้เป็นปัจจัยความได้เปรียบต่อประเทศท่องเที่ยวอื่นๆที่ทำให้คนไทยไปท่องเที่ยวในญี่ปุ่นในแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆได้อย่างแน่นอน

Japan Map

แผนที่เมืองต่างๆที่คนไทยไปกันน้อยมาก

สิ่งนี้ทำให้ผมคิดประกอบภาพต่างๆขึ้นมาคือ

1. ทางญี่ปุ่นมีการประสานงานที่ดีเยี่ยมจากระดับรัฐบาล สู่ระดับจังหวัด และ สู่ระดับองค์กรธุรกิจในท้องถิ่นที่รวมถึงธุรกิจด้านการท่องเที่ยว

2. เป็นภาพที่ชัดเจนว่า รัฐบาลญี่ปุ่นเร่งให้ภาคส่วนต่างๆต่อยอดจากการที่ไทยได้รับการยกเลิกการขอวีซ่า เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์กับท้องถิ่นให้ได้อย่างเต็มที่

3. ภาครัฐของญี่ปุ่นคงมีอะไรมากกว่าที่ผมเห็นได้ เพื่อสร้างให้เกิดรายได้จากการท่องเที่ยวให้มากที่สุด

จากเรื่องเหล่านี้เองผมเชื่อว่า เมื่อรัฐบาลเร่งรัดให้ทุกฝ่ายต่อยอดจากความเปลี่ยนแปลงเรื่องนโยบายการขอวีซ่าครั้งนี้แล้ว เค้าคงต้องปล่อยให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม และคงไม่โลเลเปลี่ยนนโยบายไปๆมาๆให้คนในชาติงงเสียเปล่าๆ และเชื่อว่า คงมีการวางแผนรับมือหากมีการหนีวีซ่ากันอยู่แล้ว

ก็เป็นมุมมองของผมนะครับที่ทำให้ผมคิดได้ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องนโยบายที่เกี่ยวกับการงดเว้นการขอวีซ่าให้กับเราคนไทยในเร็ววันนี้แน่นอนครับ วางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่นกันนะครับ ผมว่าน่าจะมีการให้เวลากับนโยบายนี้เพื่อดูผลลัพธ์ของมันสัก 2-3 ปีล่ะครับ

Trachoo.com
This entry was posted in From my experiences, Japan Travel, See it, think about it, Tour and Travel, เที่ยวญี่ปุ่น and tagged , . Bookmark the permalink.
%d bloggers like this: