–
วันนี้เกิดนึกถึงเรื่องของถุงพลาสติกขึ้นมาครับ ไม่ทราบว่าอะไรทำให้คิดถึงเรื่องของถุงพลาสติกก็ไม่ทราบ จะเป็นเพราะว่าภาพของคุณ ชัชชาติ ที่ถือถุงอาหารเพื่อไปถวายพระหรือเปล่าก็ไม่ทราบนะครับ แต่ สิ่งที่ผมคิดคือ พยายามคิดย้อนกลับไปในวัยเด็ก พยายามจะคิดถึงห้วงเวลาก่อนที่จะมีถุงพลาสติก แต่ก็นึกไม่ออกครับ ก็เลยจินตนาการเอาว่า ถ้าไม่มีถุงพลาสติก พวกเราใช้ชีวิตกันอย่างไร ผมนึกถึง ขนม โอเลี้ยง กับข้าว อาหาร เค้าค้าขายกันอย่างไร
พอนึกถึงบทบาทของ ใบตองที่ใช้ในการห่ออาหาร นึกถึงปิ่นโตที่ใช้ในการนำอาหารไปที่ต่างๆ นึกถึงบทบาทของกระป๋องนมที่เคยทำหน้าที่ในการใส่กาแฟโอยั้วให้ลูกค้านำไปดื่มที่อื่น ก็ทำให้เห็น บทบาทและหน้าที่ของถุงพลาสติก ที่เข้ามาช่วยในการทำธุรกิจเล็กๆน้อยๆ ให้สามารถมีลูกค้าเพิ่มขึ้น
ร้านโอเลี้ยง : สามารถมีลูกค้าจำนวนมากขึ้นได้ สามารถขยายพื้นที่ให้ลูกค้าซื้อกลับไปดื่มได้ที่ไหนก็ได้ ไม่ใช่แค่ดื่มในแก้วที่ร้านเท่านั้น
ธุรกิจอาหาร : แม่ค้าข้างถนนที่ไม่มีร้านอาหารเป็นของตัวเอง ก็สามารถทำอาหารมาจากบ้าน ใส่ถุงพลาสติกมา แล้วนำมาวางขายตามฟุตบาท
ร้านขายน้ำอัดลม : สามารถให้ลูกค้าซื้อใส่ถุงไปทาน ไม่ต้องซื้อไปทั้งขวด สามารถใส่น้ำแข็งเพื่อความเย็น ราคาถูกกว่าซื้อแบบกระป๋อง
ธุรกิจขนม : สามารถบรจจุในถุงพลาสติกและสามารถนำไปแขวนขายที่ไหนก็ได้ ลูกค้าสามารถมองเห็นหน้าตาของขนมข้างใน ทำให้ซื้อขายคล่อง
ร้านขายข้าวสาร : ผมจำได้ว่าตอนเด็กๆเวลาไปซื้อข้าวสาร เค้าจะตักใส่ถุงกระดาษมาให้ ต้องถืออย่างดีเพราะมันอาจขาดง่าย
ร้านขายกล้วยแขก : แต่เดิมเราจะชินกับถุงกระดาษที่ทำจากกระดาษหนังสือพิมพ์ แล้วเอามาใส่กล้วยแขก
พอคิดมาถึงตรงนี้ ผมก็คิดได้มุมนึงว่า เพราะการเข้ามาของถุงพลาสติกในสังคมไทยนี่แหละ มันได้เข้ามาช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้าขายมากมาย แก้ไขปัญหาการซื้อขายที่ต้องใช้ภาชนะที่ไม่สดวกเช่น ปิ่นโต ขวด และทำให้สามารถเพิ่มโอกาสทางการขายสินค้าต่างๆให้กับธุรกิจเล็กๆน้อยๆอย่างมากมายทีเดียว การที่ธุรกิจขนาดย่อยจากระดับพื้นมีการขยายตัวส่งผลให้เศรษฐกิจระดับมหภาคโตขยายขึ้นอย่างชัดเจนในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมาครับ
แต่ ขณะเดียวกันเจ้าถุงพลาสติกนี้ก็กลายมาเป็นปัญหาที่สำคัญของสิ่งแวดล้อมไปด้วยเช่นกัน
ขอจบบทความเรื่อง ถุงพลาสติกกับการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย เพียงแค่นี้ครับ