–
กิจกรรมที่สิงห์ทำขึ้นมาที่ทำให้ผมประทับใจมากๆคือกิจกรรมนี้ครับ Singha English Challenge เป็นกิจกรรมที่สิงห์ทำแบบไม่หวังผลกำไร ไม่หวังผลการค้า ไม่หวังอะไรทั้งนั้น นอกจากหวังว่า จะแอบ(ขอใช้คำว่าแอบ จริงๆครับ)สร้างแรงบันดาลใจให้นิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมด้านภาษาให้พร้อมรับความก้าวหน้าของสังคม ASEAN ที่กำลังจะเข้าสู่ยุค AEC ในปี 2015 เป็นความร่วมมือกับ British Council เพื่อความแม่นยำเรื่องภาษา
กิจกรรม singha english challenge นี้เป็นกิจกรรมที่เน้นจัดแข่งขันความสามารถด้านการใช้ภาษาอังกฤษแบบธรรมชาติ คือ ไม่ใช่การท่องศัพท์ ไม่ใช่การทำ Grammar ไม่ใช่การวัด Comprehension แต่มันเป็นการท้าทายความสามารถในการ”ดึง”ความรู้ ความสามารถ ทักษะ ด้านการใช้ภาษาอังกฤษออกมาใช้ในชีวิตประจำวันแบบธรรมชาติ
2 วันที่ผมมาทำหน้าที่กรรมการคือรอบ Semi Final ที่คัดนิสิตนักศึกษาที่เข้ามาร่วมโครงการจำนวนมากมายให้เหลือเพียง 8 ทีม ทีมละ 4 คน เป็นกิจกรรมที่ทำให้ผม “ทึ่ง อึ้ง และ อุ่นใจ” กับน้องๆที่ผ่านเข้ามา ในโครงการ Singha English Challenge
สิ่งที่ทำให้ทึ่งและอึ้งนั้นก็คือ ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษระดับสูงแบบที่ผมไม่เคยเห็นคนหน้าไทยๆ หน้าละอ่อนไม่มีเชื้อสายต่างชาติ จะสามารถทำได้มาก่อน และ ที่ผมอุ่นใจคือ ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ การคิดบวก การทำงานเป็นทีม และ การต่อสู้กับโจทย์ภายใต้เวลาที่บีบเค้น พวกเค้าทำได้ดีมาก นี่คืออนาคตของสังคมไทยหรือนี่ ทึ่ง อึ้ง และ อุ่นใจครับ โจทย์ของโครงการ Singha English Challenge เค้าก็ไม่ใช่ง่ายๆด้วยครับ
กิจกรรมของ Singha English Challenge ในรอบ Semi Final นั้นวันแรกทั้ง 8 ทีมจะได้รับโจทย์ให้ไปทำการ Presentation ภายใต้หัวข้อว่า “Why We Should Keep Our Eyes On (country)” น้องๆทั้ง 8 ทีมจะต้องทำการนำเสนอให้ผู้ฟังคิดตามและไม่มองข้ามประเทศต่างๆใน AEC ด้วยการทำตัวเป็นผู้รู้ของประเทศนั้นๆ เพื่อนำจุดเด่นของประเทศที่ตนได้รับมอบหมาย ออกมานำเสนอให้ผู้ฟังคล้อยตาม เป็นภาษาอังกฤษ ล้วนๆ
ทั้ง 8 ทีมทำได้ดีมากครับ มีความคิดสร้างสรรค์ มาทำให้กรรมการวัย 50 อย่างผมต้องตะลึงกับความคิดของเด็กรุ่นใหม่เหล่านี้
วันที่ 2 ทางโครงการ Singha English Challenge ต้องคัดผู้เข้าร่วมการแข่งขันให้เหลือ 4 ทีม ทุกทีมจะต้องทำการนำเสนอเรื่องราวของประเทศใน AEC แต่คราวนี้ไม่ใช้การนำเสนอตรงไปตรงมาแล้ว ทุกทีมใน Singha English Challenge ต้องทำการนำเสนอแบบ รายงานข่าวทางทีวี หรือ รายการวาไรตี้
ซึ่งก่อนที่จะทำจริง ทางสิงห์ ก็จัด VJ ชื่อดังเช่น คุณเอ๋ แห่ง UBC และ VJ ภูมิ ตั้งสง่า มาทำ Workshop ให้เป็นอย่างดี ผลก็ออกมาคือ ความประทับใจของกรรมการอย่างผมครับ แล้วโครงการ Singha English Challenge ก็ได้ผู้เข้ารอบ 4 ทีมเข้าไปทำการแข่งขันกันต่อไป
ผมดีใจมากจริงๆที่ได้ใช้เวลาหยุด เสาร์-อาทิตย์ ไปกับการได้เรียนรู้ว่า เด็กสมัยใหม่เค้าเก่ง กล้า สามารถ สร้างสรรค์ และ มีความมุ่งมั่นกันอย่างสูง ผมได้เรียนรู้เรื่องราวจุดเด่นของประเทศต่างๆใน AEC ผ่านเด็กเก่งๆพวกนี้
ที่สำคัญที่สุด อันนี้ไม่มีใครบอกผม ผมคิดของผมเองว่า โครงการ Singha English Challenge นี้เป็นโครงการที่ไม่มีใครแม้กระทั่งรัฐบาลไทยจะคิด แต่ บริษัทที่ผมทำงานให้เค้า เค้าคิดและเค้าจะทำต่อไป โครงการนี้ Singha English Challenge จะสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กไทยอีกมากมายที่จะได้มุ่งหน้าเสริมสร้างความชำนาญด้านภาษาอังกฤษ เพื่อเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะนำประเทศไทย ก้าวสู่โลกใหม่แห่งอนาคตที่เป็นสังคมเปิดสู่นานาประเทศทั่วโลกแบบไร้พรมแดน
ผมแอบคิดของผมไปว่า ใครจะทะเลาะกันยังไงไม่รู้ อย่างเงียบๆ ที่นี่ สิงห์สายตาจับจ้องที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอนาคตให้กับประเทศไทยผ่านการสร้างคนรุ่นใหม่ เพื่อพาไทยฝ่าออกจากวงล้อมความคิดเดิมๆไปสู่อนาคตอันสดใส
ใครที่ผ่านมาอ่านบล็อกนี้ ฝากไปบอกลูกหลานว่า ให้สนใจโครงการ Singha English Challenge นี้ด้วยครับ ดีจริงๆครับ
ก่อนจบขออนุญาตให้เครดิตคนเก่งของบริษัทที่สร้างกิจกรรม Singha English Challenge ดีๆอันนี้ขึ้นมาครับ คุณ ชลวิทย์ สุขอุดม Senoir Marketing Manager, Singha Corporation ครับ