–
คนเราส่วนมากมักจะพยายามเลี่ยงความเครียด เพราะความเครียดเป็นสาเหตุของสารพัดโรค แต่ วันนี้ผมมีเรื่องของการใช้ประโยชน์จากความเครียดอันเกิดจากแรงกดดันมาลองเล่าให้ฟัง โดยเป็นการนำเอาประสพการณ์ที่ได้รับรู้มาจากหลายๆมุมมองมาเล่าให้ฟังนะครับ
การบริหารงานโรงแรมระดับ First Class
ในการบริหารงานบุคคลของโรงแรมที่จะต้องมีคุณภาพการบริการและคุณภาพของทุกอย่างเหนือขั้นกว่ามาตรฐานมากๆ สิ่งที่จะทำให้เกิดคุณภาพระดับนั้นได้คือ คุณภาพและความตั้งใจของคนบริการ
คนเราโดยมากแล้วจะไม่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่เหนือมาตรฐานมากๆแต่เมื่อมาทำงานในโรงแรม พวกเค้าจะต้องถูกผลักดันให้สามารถทำการบริการให้เหนือกว่ามาตรฐานให้ได้ เรื่องนี้ผู้จัดการโรงแรมจะเป็นผู้ที่ต้องผลักดันให้เกิดขึ้นให้ได้
ด้วยคำพูดว่า “ที่นี่เป็นโรงแรมระดับ First Class คุณต้องทำให้ดีกว่านี้” หรือ “โรงแรมเราเป็นโรงแรมระดับ First Class คุณมีความสามารถพอที่จะทำตรงนี้หรือไม่” หรือ “ที่นี่เป็นโรงแรมระดับ First Class แขกเราต้องการบริการระดับ First Class คุณต้องถึงตรงนั้น”
คำพูดเหล่านี้เป็นสิ่งสร้างแรงกดดันให้พนักงานเกิดความเครียดและพยายามผลักดันการทำงานของตัวเองให้สูงขึ้น ธุรกิจโรงแรมเป็นธุรกิจของการพักผ่อนแต่คนที่อยู่ข้างหลังก็มีความเครียดจากแรงกดดัน แต่ มันก็สำคัญที่จะรักษาระดับความ First Class ให้ได้
การฝึกสอนทหาร
ในการฝึกทหารจะมีครูฝึกที่ดุอย่างเกรี้ยวกราดราวกับจะกินเลือดกินเนื้อทหารฝึกใหม่ ทั้งๆที่เค้าก็ไม่ได้เกลียดเคียดแค้นอะไรกับทหารใหม่เหล่านั้น
ทำไมครูฝึกจึงต้องสร้างแรงกดดันสร้างความเครียดให้กับทหารใหม่ เพราะ การเป็นทหารนั้นในภาวะที่ต้องรบกับข้าศึกจริงๆมันมีความเครียดสูงกว่ามาก ทหารจะต้องถูกฝึกมาในสภาวะที่มั่นใจได้ว่า เมื่ออยู่ในภาวะที่มีความเครียดจริงๆจะไม่เกิด “สติแตก” ในสงคราม ดังนั้นการสร้างให้คุ้นเคยกับความเครียดจึงเป็นสิ่งจำเป็นมากในการทหาร
อีกทั้งการเป็นทหารเป็นการใช้ชีวิตที่เหนือธรรมดามากๆ การฝึกจะต้องดึงเอาสมรรถภาพร่างกายของทหารออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ การใช้แรงกดดันจึงเป็นสิ่งจำเป็นมากๆสำหรับการฝึกทหาร แม้กระทั่งการฝึกนักกีฬา เราก็จะเห็นครูฝึกที่โหดกับนักกีฬาด้วยเหตุผลเดียวกัน
เราจะใช้แรงกดดันให้เกิดประโยชน์กับตัวเราได้อย่างไร
จากเรื่องที่เล่ามาทำให้เห็นว่าการใช้แรงกดดันสามารถสร้างให้เป็นประโยชน์กับเราได้ แล้วเราจะทำอย่างไรที่จะ apply แรงกดดันให้กับตัวเองได้ล่ะ
วิธีการคือ การตั้งเป้า การวางตำแหน่งตัวเอง แล้วใช้เป้าและตำแหน่งของตัวเอง สร้างแรงกดดันให้กับตัวเองด้วยการ “บอกตัวเอง” เหมือนอย่างที่ผู้จัดการโรงแรมบอกกับพนักงาน แต่ เราเปลี่ยนมาบอกตัวเอง เช่น
“ผู้จัดการอย่างเรา ต้องทำได้ดีกว่านี้”
“จบปริญญาโทมาแล้ว ทำงานแพ้พวกปริญญาตรีไม่ได้หรอก เราต้องทำดีกว่านี้”
“เป็นพนักงานใหม่ เราต้องได้ดีกว่าพวกที่เข้ามาพร้อมๆกับเรา เราจะต้องได้ดีกว่าให้ได้”
“วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน พรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้”
ถ้าเราทำดีเท่าๆกันทุกวัน เป็นเวลา 365 วันผลงานปลายปีของเราจะมีค่าเท่าเดิมคือ 1 เท่าเดิม
ถ้าเราทำดีกว่าเมื่อวานเพียง 1% ทำต่อเนื่องเป็นเวลา 365 วัน ผลงานปลายปีของเราจะมีค่าถึง 37 เท่าของวันแรก
แต่ถ้าเราทำดีน้อยลงกว่าเมื่อวานวันละ 1% เป็นเวลา 365 วัน ผลงานปลายปีของเราจะเหลือค่าเพียง 0.03 เท่าของวันแรก เท่านั้น
ไม่เห็นยากเลยใช่ไหมครับ ที่จะขยันด้วยการสร้างแรงกดดันให้ตัวเองเพียงวันละ 1% มากกว่าเมื่อวานนี้