–
เอามาเล่าย่อๆให้ฟังนะครับว่าหนังสือเล่มนี้เค้ามีสาระว่าอะไร ผมเห็นหน้าปกที่สนามบินฮ่องกง เปิดเนื้อหาอ่านก็ชอบใจ ซื้อมาอ่านก็ยิ่งชอบใจ ชอบใจที่ได้เปิดหูเปิดตาเรื่องราวของจีนในหลากหลายมิติ แต่ผมคงเล่าไม่ได้หมด เพราะมันก็กำลังตกผลึกในสมองผมอยู่นะครับ
ผมจะมาเล่าให้ฟังแบบย่อๆ พอไปจินตนาการต่อกันได้เองแล้วกันนะครับ
เรื่องนี้มันแทบจะไม่น่าเชื่อถือเลย ถ้าไม่ได้เขียนโดยนาย Shaun Rein แกเป็นเจ้าของบริษัทวิจัยที่ใหญ่โตของจีน บริษัทชั้นนำจากอเมริกาก็ต้องไปจ้างแกทำวิจัยสารพัดเลยครับ แกเรียนจบ Harvard แม่เป็นลูกครึ่งจีน มาแต่งงานกับสาวชาวจีนที่ไปเจอกันที่อเมริกา เอาคร่าวๆแค่นี้ก่อนนะครับ
หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็นบทต่างๆดังนี้ครับ
1. Chinese Billionaires Outnumber American Ones
2. Cheap Chinese Labor? Not Anymore: China’s Workers Are Demanding Better Pay and Better Conditions And They Are Earning Them
3. Stability is the Key to Happiness: How China’s Government Thinks and Why It Acts the Way It Does
4. The Modern Chinese Woman
5. Why Chinese Considers KFC Healthful: China’s Iffy Food Supply Chain Is Putting a Premium on Safe Food
6. Understand Corruption in China: What China’s Underground Sex Trade Shows About Its Government
7.China Real Estate Sector: Boom or Bust or Something Else?
8. Chinese Neo-Colonialism in Africa and the End of American Hagemony?
9. China’s Educational Sector: Preventing China From Cementing Its Superpower Status
10. What the End of Cheap China Means for the Rest of the World
หนังสือมีเนื้อหาเยอะ เพราะคนเขียนแกคลุกคลีตั้งแต่ กรรมกร คนทำงานโรงงาน ผู้จัดการโรงงาน เจ้าของกิจการทั้งจีนและต่างชาติ ไปจนถึงนักธุรกิจพันๆล้านหมื่นล้านในจีน แกมีทีมงานสัมภาษณ์คนไปทั่วประเทศจีน แต่สาระสำคัญๆที่ไม่ควรพลาด ผมจะย่อให้ฟังไม่เกิน 10 บรรทัดต่อจากนี้ครับ
– เมืองจีน”เคย”เป็นแหล่งที่คนทั้งโลกต้องย้ายเข้าไปมีโรงงาน เพราะมีค่าแรงที่ถูกมาก เพราะจีนมีคนเยอะและจน
– คนจีนเองก็ไม่ได้”ไม่ฉลาด”อย่างที่โลกภายนอกคิด พวกเค้าสร้างแบรนด์เป็น ตอนนี้จีนมีคนรวยมากกว่าอเมริกา แต่ละปีมีคนเที่ยวต่างประเทศ 60 ล้านคนต่อปี พอๆกับคนไทยทั้งประเทศ
– การที่รัฐบาลจีนสร้างความพร้อมให้เมืองจีนในด้าน Logistic การศึกษา และ ทักษะการทำงาน ทำให้เกิดอภิมหาเศรษฐีใหม่จำนวนมากที่ฉลาด และ เกิดชนชั้นกลางเยอะมาก
– การที่โรงงานทั่วโลกเข้าไปตั้งในจีน สร้างความต้องการแรงงานมหาศาล (ลองหยิบอะไรขึ้นมาก็ได้ แล้วดูสิครับว่ามีคำว่า Made in China ไหม)
– แรงงานที่เคยยินยอมออกจากบ้านมาทำงานต่างถิ่นไกลๆ ยอมอดมื้อกินมื้อ ยอมทำงานในที่สภาพการทำงานแย่ๆ ยอมทุกอย่างเพื่อให้ได้ทำงาน เปลี่ยนไปเป็นตรงกันข้าม คนเลือกงาน เปลี่ยนงานทุกสองเดือน เงินเดือนและค่าแรงสูงมาก ถูกซื้อตัวตลอดเวลา สภาพการทำงานไม่ดีก็ไม่ทำ สวัสดิการไม่ดีก็ไม่อยู่ ไกลบ้านเกินไปก็ไม่ทน
– สินค้าดังๆจำนวนมากที่เคยใช้จีนเป็นแค่แหล่งผลิต กลับกลายเป็นต้องขายในจีนเป็นตลาดหลัก ไม่ต้องดูอื่นไกล iPhone แต่ก่อนแค่จ้าง Foxconn โรงงานที่มีคนงานถึง 350,000 คน เพื่อผลิต iPhone แล้วไปขายที่อื่น ตอนนี้ต้องปรับแผนเป็นเปิดตัวที่เมืองจีนก่อน และ ขายเมืองจีนเป็นหลัก
– สินค้า Luxury ทุกยี่ห้อต้องเอาใจคนจีนก่อน เพราะกลายเป็นตลาดหลักไปแล้ว ไม่ขอขยายความนะครับ
– ค่าแรงที่สูงขึ้น ตลาดที่ย้ายจากทั่วโลกมาเป็นตลาดจีนมีความสำคัญ ก่อให้เกิดความท้าทายใหม่ๆ
– เมื่ออเมริกา กดดันให้จีนขึ้นค่าเงินหยวน คนที่ลำบากกลับกลายเป็นโรงงานชาวต่างชาติที่เข้าไปตั้งในจีน เพราะ ค่าแรงก็สูงขึ้น ราคาส่งออกก็แพงขึ้นเพราะค่าเงินหยวนสูงขึ้นอีก
– โรงงานอยากจะย้ายโรงงานไป เวียตนาม และ อินโดนีเซีย ก็ไม่สามารถทำได้เพราะ ย้ายไปก็ไปเจอ Logistic และ คนที่ทักษะต่ำกว่าจีนทุกระดับ
– ขั้วที่เปลี่ยนแบบกลับหัวกลับหาง กำลังจะสร้างความปั่นป่วนให้กับโลกทั้งใบ จากแรงงานถูกกลายเป็นแรงงานแพง แถมไม่มีที่จะย้ายไปอีก และ จากแหล่งผลิตกลายมาเป็นตลาดที่มีความสำคัญ
– อเมริกาเองก็ไม่ชอบ ที่จีนจะอยู่ๆไม่ทันไรก็มามีอำนาจต่อรองกับโลกใบนี้ได้ขนาดนี้ ขณะเดียวกันจีนเองก็มีเงินและหลายประเทศก็พร้อมที่จะเปิดรับเงินของจีนเพื่อมาลงทุน อันนี้อเมริกาทนไม่ได้ที่จะเห็นใครหันไปซบจีนมากขึ้นทุกทีๆ
– หนังสือเล่าให้ฟังว่า สภาพการปิดกั้นเสรีภาพของจีนที่ชาวตะวันตกต่อว่ากันนักหนา อันที่จริงแล้วถ้าได้รู้ว่าในห้วงปี 1947 ก่อนการเปลี่ยนมาเป็นคอมมิวนิสต์นั้น คนจีน Suffer มากๆ ตอนนี้อะไรที่ทำให้ประเทศกลับไปวุ่นวายแบบเก่า เค้าไม่เอาแล้ว
– แต่เมืองจีนยังมีข้อเสียหลายอย่าง เช่น การปลอมแปลงสินค้า การคอร์รัปชั่น การเอารัดเอาเปรียบประชาชน ทั้งนี้เพราะ รัฐบาลกลางไม่สามารถสั่งการลงไปได้ถึงระดับมณฑล ศาลตัดสินแล้วแต่รัฐบาลระดับมณฑลไม่ทำตามคำสั่งศาล ก็เป็นเรื่องที่น่าปวดหัวสำหรับนักธุรกิจ
– คนจีนมีความไม่ไว้วางใจสินค้าของจีนกันเอง และ พร้อมที่จะจ่ายแพงสำหรับสินค้าจากต่างประเทศ เพราะ ความมั่วของธุรกิจจีน เช่นการปลอมปนสารเมลามีนในนมเด็ก อันนี้เป็นตัวอย่างของการสร้างความไม่ไว้วางใจในสินค้าของจีนกันเอง
– อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างชาติก็เข้าไปสร้างปัญหามลพิษไว้เยอะ จนบางคนเริ่มรู้สึกว่า ไม่อยากให้นักลงทุนเข้ามามากเกินไปแล้ว ยอมให้ค่าเงินหยวนแพงขึ้นดีกว่า บางคนก็บอกว่า ถ้าค่าเงินหยวนแข็งขึ้น เค้าตายแน่ๆ
– รัฐบาลจีนที่ดูภายนอกดูดี แต่ ภายในก็ลำบากเหลือเกินเพราะ ประเทศใหญ่โตเหลือเกิน ทุกอย่างดูเหมือนจะไม่สามารถเอาใจใครๆได้พร้อมๆกัน
– แต่สิ่งนึงที่จีนมีและทุกประเทศจะต้องอิจฉาคือ การมีรัฐบาลกลางที่ซื่อสัตย์ เอาประโยชน์ส่วนใหญ่ของชาติเป็นหลัก ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม Google อะไรฉันไม่สน Facebook ฉันไม่แคร์ ถ้ามันจะสร้างความร้าวฉานในประเทศฉันไม่เอา คนโกงประหารลูกเดียว นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดที่ประชาชนคนจีนเทใจให้รัฐบาลกลาง ไม่ใช่รัฐบาลระดับมณฑล น่าอิจฉาไหมครับ
————————————————————————-
ผมคงเล่าสาระได้ไม่หมดครับ จับประเด็นสำคัญๆมาเล่า หากสนใจก็ลองไปหามาอ่านนะครับ สำหรับผมก็อ่านเพื่อเป็นพื้นฐานไปอ่านเรื่องอื่นๆให้มันพอจะรู้เรื่องกะเค้าบ้าง ก็ถือว่าเป็นหนังสือที่น่าสนใจเล่มนึงเลยครับ
จบแค่นี้นะคร้าบ