–
อ่านหนังสือพิมพ์ของญี่ปุ่น อ่านข่าวนี้แล้วก็กลับมาคิดต่อ ว่า รัฐบาลที่มีขึ้นมานั้นมีเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี ที่ปลอดภัย ที่สดวกสบาย ที่สงบสุขของประชาชน ด้วยการเอาปัญหาของประชาชนเป็นที่ตั้ง แล้วกำหนด Action Plan ออกมาให้วัดผลการทำงานของตัวเองได้
แบบนี้สิถึงเรียกว่า รัฐบาลของประชาชน
ลองยกตัวอย่างนี้มาดูกันครับ การวางแผนมาตรการรับมือกับภัยธรรมชาติของพวกเค้า อาจเป็นตัวอย่างเพื่อการสร้างความคาดหวังที่เหมาะสมกับรัฐบาลของเรากันบ้าง

Acton Plan การทำงานของรัฐบาลญี่ปุ่น
Action Plan for Anti-Disaster Measures
1. จะต้องมีอาคารบ้านเรือนที่ติดตั้งระบบรับมือการแผ่นดินไหว จาก 79% เป็น 95% ในปี 2020
2. จะต้องมีการป้องกันชายฝั่งจากคลื่นที่เสร็จอย่างน้อย 66% จาก 31% ของความยาวชายฝั่งทะเล
3. ต้องมีแผนที่การหนีภัยและการซักซ้อมการหนี Tsunami ให้หมด 100% จาก 14% ภายในปี 2016
4. ต้องมีระบบเส้นทางถนนที่มีทางหนีภัยอย่างเป็นเน็ทเวอร์คให้ได้ 50% จาก 47% ภายในปี 2016
5. ต้องเพิ่มทีมกู้ภัยและหน่วยดับเพลิงจากจำนวน 4,600 ทีมให้เป็น 6,000 ทีมภายในปี 2018
6. ต้องมีบริษัทที่มีหน้าที่ด้านสาธารณูปโภคที่มีความสำคัญจะต้องมีแผนรับมือภัยธรรมชาติ 100 % ภายในปี 2020
7. บริษัทที่ทำธุรกิจด้านอาหารจะต้องพร้อมในยามวิกฤติอย่างน้อย 50% ในปี 2017
รัฐบาลญี่ปุ่นกำหนดเป้าหมายนี้อย่างชัดเจนและจะต้องดำเนินการให้เข้าเป้าและเป็นหน้าที่หลักของคณะรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชุดไหน พวกเค้าหาทาง “แก้กฏหมาย” ต่างๆที่จะทำให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขและปลอดภัย
เป้าหมายนี้ รัฐบาลเปิดออกมาให้ได้รู้กัน หากทำไม่สำเร็จประชาชนก็รู้ได้เพราะ ตั้งเป้าหมายแบบ”วัดผลได้”ชัดๆกันไปเลย
ก็เอามาเป็นตัวอย่างเพื่อการเข้าใจ และ มีการคาดหวังการทำงานจากรัฐบาลอย่างมีระบบ รัฐบาลไม่ได้มีหน้าที่ไปตัดริบบิ้น เปิดแพรคลุมป้าย แต่พวกเค้ามีหน้าที่หลักที่จะคิดวางระบบ แก้ระบบ แก้กฏหมาย อะไรต่างๆที่ “ขวางทาง” การดูแลประชาชน
ไม่ใช่คิดแค่ว่า จะแก้กฏหมายเพื่อให้ “กรอง”นักการเมืองเสียๆออกไป ให้นักการเมืองดีๆเข้ามาในระบบอย่างโปร่งใส มันแปลว่าอะไร แปลว่าประเทศเรามีแต่นักการเมืองที่จ้องจะเข้ามาโกงกิน ไม่ได้จะเข้ามาทำงาน จนต้องมาแก้กฏหมายกรองคนพวกนี้ออกไป
ถ้าจะแก้กฏหมายทั้งที แก้ให้มันได้นักการเมืองที่อยากทำงานเพื่อประชาชนให้ได้เข้ามาให้ได้จะดีกว่ามั้ง ให้มีระบบที่สามารถดูได้เลยว่า ใครอยากเข้ามาทำงาน ใครอยากเข้ามาหาผลประโยชน์
กรองของเสียเพื่อให้ได้ของเสียน้อยหน่อยเข้ามา กับ การกลั่นหาของดีชั้นเลิศมันต่างกันมาก เราต้องไม่หลงทาง