พาเที่ยวชม Kinokuniya คิโนะคุนิยะสาขาแรกโตเกียวญี่ปุ่น

หลายคนคงชื่นชอบร้านหนังสือจากญี่ปุ่นที่ชื่อ Kinokuniya วันนี้บล็อกนี้จะพาไปดู  Kinokuniya คิโนะคุนิยะ สาขาแรกโตเกียวประเทศญี่ปุ่นกันครับ

Kinokuniya First Store

Kinokuniya First Store

เรามาดูประวัติของ Kinokuniya ที่เริ่มต้นที่ประเทศญี่ปุ่นกันก่อนไหมครับ

อันที่จริงแล้วเค้าไม่ได้เริ่มมาก็ทำร้านหนังสือเลย แต่เค้าทำธุรกิจไม้ซุงและถ่านมาก่อน แต่หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 1923 พวกเค้าก็ย้ายที่ทำการมาที่ Shinjuku และเปลี่ยนตัวเองมาทำร้านหนังสือ

ในเดือนพฤษภาคม 1945 โตเกียวโดนถล่มด้วยระเบิดในสงครามโลกครั้งที่ 2 Kinokuniya ก็โดนไปด้วย แต่ก็สามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้ในอีกทีในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน จากนั้นเค้าก็เริ่มขยายสาขาออกไปเรื่อยๆทั่วประเทศญี่ปุ่น

ต่อมา Kinokuniya ก็ทำการเปิดสำนักงานใหญ่สาขาที่ Shinjuku ที่ที่เรากำลังจะได้ชมกันต่อไปนี่แหละครับ

 

Kinokuniya คิโนะคุนิยะ สาขาแรก ในโตเกียว ญี่ปุ่น ที่เรียกว่า Shinjuku Main Store Building

Kinokuniya คิโนะคุนิยะ สาขาแรก ในโตเกียว ญี่ปุ่น ที่เรียกว่า Shinjuku Main Store Building

ที่ตึกแห่งนี้ Kinokuniya ได้ทำการเปิดเป็นสำนักงานใหญ่ประจำโตเกียว เป็นตึกมี 9 ชั้นและมีชั้นใต้ดินอีก 2 ชั้น ใหญ่มากหนังสือเยอะมากครับ เรามาเดินไปดูข้างในของชั้น 1 กันก่อนนะครับ

Kinokuniya สาขา Shinjuku Main Store

แผนผังบอกว่า Kinokuniya สาขานี้มีหนังสืออะไรอยู่ชั้นไหนบ้าง อ่านไม่ออกครับ

ป้ายข้อมูลที่ละเอียดมากของ Kinokuniya คิโนะคุนิยะ บอกว่าหนังสือประเภทไหนอยู่ชั้นไหน และ หากอยากเข้าห้องน้ำมีอยู่ที่ชั้นไหนบ้าง

Kinokuniya สาขา Shinjuku Main Store โตเกียว ญี่ปุ่น

หน้าตาของร้านที่ชั้น 1

สาขาKinokuniya คิโนะคุนิยะ นี้เป็นสาขาแรก เก่าแก่ ยังไม่ได้ตกแต่งให้สวยงามเหมือนสาขาใหม่ๆ แต่มีหนังสือเยอะมากครับ ลูกค้าก็เยอะ น่าอิจฉาทางเลือกของการอ่านของเค้าจริงๆ

Kinokuniya โตเกียว ญี่ปุ่น Shinjuku Main Store

จอสำหรับค้นหาหนังสือและสะสมแต้ม

 ใช้ไม่เป็นครับ เลยไปถามพนักงานเอาดีกว่า

Kinokuniya สาขาแรก โตเกียว ญี่ปุ่น Shinjuku Main Store

ที่จุดบริการลูกค้าและจ่ายเงิน

 พนักงาน Kinokuniya คิโนะคุนิยะให้บริการด้วยความเต็มใจ

Cafe' Shelf คิโนะคูนิยะ โตเกียว ญี่ปุ่น Shinjuku Main Store

แยกหมวดหนังสืออย่างละเอียด อันนี้เป็นหมวด”ร้านกาแฟ”

หนังสือแบ่งแยกออกเป็นหมวดหมู่ที่ละเอียดยิบ ลองไปถามว่ามีพวกหนังสือร้านกาแฟไหม เค้าพาไปดูเลยครับว่ามีเป็นชั้นๆเลยเลือกเอาได้

Book at Shinjuku Main Store Kinokuniya Tokyo

หนังสือการแต่งหน้ากาแฟ น่ารักๆ น่าอ่าน

Kinokuniya Shinjuku Main Store โตเกียว ญี่ปุ่น

ป้ายบอกว่าชั้นไหนมีอะไรบ้างที่หน้าลิฟท์

 ถ้าไปชั้นต่างๆด้วยลิฟท์ ก็จะมีข้อมูลเพื่อให้ไปได้ถูก Kinokuniya คิโนะคุนิยะ ที่นี่มีถึงชั้น 9 เลยครับ

คิโนะคูนิยะ สาขาแรก โตเกียว ญี่ปุ่น ชินจูกุ

เดาได้เลยว่า เป็นชั้นหนังสือที่เกี่ยวกับ หมอๆ

แต่ละชั้นของ Kinokuniya คิโนะคุนิยะ มีการตกแต่งเพื่อเพิ่มบรรยากาศให้ชั้นด้วย

Kinokuniya Shinjuku Main Store Tokyo ญี่ปุ่น

ป้ายบอกข้อมูลชั้น 4 ว่ามีหนังสืออะไร สำหรับคนที่เดินบันไดไม่ได้ใช้ลิฟท์

 ข้อมูลจะมีทุกจุด คนญี่ปุ่นไม่ค่อยถามเจ้าหน้าที่ เค้าเลยมีข้อมูลไว้อำนวยความสดวกเป็นอย่างดีครับ

Kinokuniya คิโนะคุนิยะ สาขาแรก ในโตเกียว ญี่ปุ่น ที่เรียกว่า Shinjuku Main Store Building

ชั้นวางหนังสือ

 ดูธรรมดาๆ แต่ที่ไม่ธรรมดาคือ ปริมาณของหนังสือ

Kinokuniya คิโนะคุนิยะ สาขาแรก ในโตเกียว ญี่ปุ่น ที่เรียกว่า Shinjuku Main Store Building

หนังสือดีๆที่น่าอ่าน

เสียดายที่อ่านไม่ออก

Kinokuniya สาขา Shinjuku Main Store Comic Section

สำหรับผู้ชื่นชอบการ์ตูน ต้องไปอีกตึกนึงครับ

แต่พออยากจะถามหาหนังสือเกี่ยวกับการ์ตูน เราต้องเดินออกมาจากตึกเพื่อไปยังอีกตึกนึงที่ใกล้ๆกันครับ  Kinokuniya คิโนะคุนิยะ สาขาที่นั่นหนังสือการ์ตูนเยอะมาก

Comic Section Kinokuniya Shinjuku Main Store

ชั้นที่ขายเฉพาะหนังสือการ์ตูนเท่านั้น

คิโนะคุนิยะ สาขา Shinjuku Main Store บนถนนสายนึงแถบชินจูกุ

เดินออกมาจากตึกแล้วครับ

น่าอิจฉาจริงๆครับสำหรับคนที่ชอบการอ่าน ที่ญี่ปุ่นเค้ามีธุรกิจหนังสือกันมา 80 กว่าปีแล้ว Kinokuniya คิโนะคุนิยะ ปัจจุบันก็เป็นร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีสาขาในหลายประเทศทั่วโลกเลยครับ

 พวกเค้านิยมการอ่านกันมาก จึงมีผู้ทำหนังสือออกมามาก ก็เลยมีหนังสือดีๆให้ได้อ่านกันทุกแขนง ประเทศที่มีคนชอบอ่านก็เลยเป็นประเทศที่มีคนชอบเขียนชอบศึกษาหาความรู้หาความคิดมาเขียนกัน คนก็พัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆเพราะมีทั้งคนอ่านและคนคิด

น่าอิจฉาครับ

Trachoo.com
This entry was posted in Japan Travel, Tour and Travel, เที่ยวญี่ปุ่น and tagged , , , , , , , , , , , . Bookmark the permalink.
%d bloggers like this: