Category Archives: Our Earth our nature

Nature, Earth, Mankind Topics

ทำไมน้ำมันดิบจึงมีหน่วยวัดปริมาตรเป็นบาร์เรลล์ (Barrel)

ทำไมวงการน้ำมันดิบจึงใช้หน่วยวัดปริมาตรว่า “Barrel” เรื่องราวมันย้อนกลับไปไกลมาก King Richard III ของอังกฤษ (คศ. 1452 – 1485 อายุ 33 ปีเอง) เป็นผู้กำหนดให้ถังใส่ Wine ที่มีขนาดแตกต่างกันให้เป็นขนาด 84 และ 42 แกลลอน เจ้าถังใส่ Wine นี่เราเรียกว่า Barrel ต่อมามาตรฐานของถังใส่ Wine ก็กลายเป็นถังที่ผู้คนนำมาใช้ใส่ของขายกันเป็นปรกติ ที่ Pennsylvania ก็เอาถัง Barrel มาใส่ไวน์ วิสกี้ แซลมอน ปลาไหล ไขมันปลาวาฬ (เอามาทำน้ำมันตะเกียง) อะไรใส่ได้ก็ใส่ๆเข้าไป จนกระทั่งปี 1859 เกือบ 500 ปีหลังจากที่มีมาตรฐานของถัง Barrel เกิดมีการค้นพบน้ำมันดิบที่ใต้ดิน  คนที่ค้นพบก็ไม่รู้จะเอาน้ำมันดิบที่ขุดขึ้นมาได้ไปใส่ไว้ที่ไหน ก็เลยเอา Barrel ขนาด 42 แกลลอนนี่แหละมาใส่ และคำว่าน้ำมันดิบ 1 Barrel […]

เขื่อนกั้นน้ำทะเลเซาะตลิ่ง เค้าสร้างกันอย่างไร

เขื่อนกั้นน้ำทะเล สร้างอย่างไรไม่ให้น้ำทะเลเซาะพัง

เขื่อนกั้นน้ำทะเลเซาะ ก็คงต้อง เริ่มต้นจากทะเลที่มีแต่ทรายแบบนี้ครับ หลักการคือ สร้างฐานที่แข็งแรงที่สามารถป้องกันการกัดเซาะฐานราก เพื่อให้เขื่อนกั้นน้ำทะเลสามารถต้านทานการกัดเซาะของน้ำทะเลได้ เค้าจึงเอาหินก้อนใหญ่ๆมาใส่ลงไปในกล่องที่ทำด้วยตาข่ายพลาสติคขนาดหนา ในภาพนี้ช่างกำลังสร้างกล่องใส่หินอยู่ข้างทางครับ ฐานรากของ เขื่อนกั้นน้ำทะเล นี้ จะแข็งแรงขนาดไหนผมก็ไม่ทราบครับ เพราะอย่างไรก็ตามมันก็วางอยู่บนพื้นทรายธรรมดาๆเท่านั้นเอง ทรายที่พื้นจะไม่ทรุดหรือถูกซัดหายไปเหรอ ผมก็อดสงสัยไม่ได้ เมื่อมีฐานแล้ว ตัวเขื่อนกั้นน้ำทะเลจริงๆก็เริ่มสร้างครับ ด้วยการก่อแบบคอนกรีตเพื่อเทปูนให้เป็นตัวเขื่อน หินที่รวมกันในกล่องที่มีตาข่ายพลาสติกห่อเอาไว้จะถูกซ้อนกันเป็นชั้นๆ เป็นขั้นบันได เพื่อที่จะสร้างให้มีเขื่อนเป็นรูปขั้นบันได เขื่อนกั้นน้ำทะเลบริเวณปากน้ำปราณบุรีนี้ในอนาคตคงเป็นที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจได้เป็นอย่างดี ความที่เป็นบันไดแบบนี้ อาจสามารถทำให้เป็นพื้นที่ชมกีฬาหรือกิจกรรมทางน้ำ หรือ กิจกรรมกีฬาริมทะเล เช่น วอลเล่ย์บอลชายหาด ที่นั่งดูการแข่งขันเจ็ทสกีได้เป็นอย่างดี หวังว่า เขื่อนกั้นน้ำทะเล อันนี้จะสามารถอยู่ทนนานตามเป้าหมายการออกแบบของวิศวกรและทำประโยชน์ให้สมกับเงินที่ทุ่มลงไปครับ หวังว่าคงได้รับประโยชน์จากบล็อกนี้บ้าง ขอบคุณครับ

วิชาอารยธรรม (Civilisation) ความรู้ที่ไม่ชอบแต่ทรงคุณค่ากับชีวิตในเวลาต่อมา

– วิชาอารยธรรม ทำไมเราต้องเรียนวิชาที่เราไม่ชอบ หลายคนอาจคิดเหมือนผมว่า เราเป็นนักวิทยาศาสตร์ เราเป็นวิศวกร เราจะเรียนรู้เรื่องวิชาอารยธรรม ของ สายศิลปะไปทำไม สมัยเรียนตอนปี1 มีวิชาอารยธรรม ( Civilisation) นี้ที่ผมไม่ชอบเลย แถมเรียน 8 โมงเช้า (นั่งรถเมล์จากคลองจั่นไปสามย่าน 1.5 ชั่วโมง) ไม่อยากเรียน ไม่อยากอ่าน แต่ต้องสอบ (ขนาดเรียนกับอาจารย์ บรูซ แก็ซตัน ด้วยซ้ำ) สอบมาก็เกรดไม่ดี ก็ดีที่เรียนจบๆวิชานี้ไปแต่ทุกวันนี้ คำต่างๆ ภาษา หลักคิด เนื้อหาในวิชาอารยธรรมนี้ กลับเป็น “ทรัพยากรทางสมอง” ที่สำคัญของผมเลยครับ ความรู้จากวิชาอารยธรรม ทำให้ผมสามารถพูดคุยกับคนจากต่างชาติ ด้วยภาษาและความรู้ของคนที่มี “อารยความรู้”  การเป็นคนมีภูมิทางความคิด (ผมเห็นว่า) เค้ามองกันที่การเป็นคนที่มีพื้นฐานความเข้าใจเรื่องอารยธรรมของโลก ศิลปะ สังคม วิวัฒนาการของความคิดของมนุษย์ อีกทั้งวิชาอารยธรรมที่เราไม่ชอบนี้ มหาวิทยาลัยเค้าปลูกพื้นฐานให้วันนี้ เราสามารถต่อยอดไปอ่านหนังสือที่ยากขึ้นในสาขาต่างๆ ดูสารคดี หรือ อ่านข่าวต่างประเทศ ทำให้เรามีเรื่องคิดที่มากขึ้น สูงขึ้น มีร่องสมองที่หลากหลายให้เลือกใช้ในแต่ละสถานการณ์ เวลาที่เราไปต่างประเทศ […]

Facebook กับปัญหาที่คนเล่นไม่เคยรู้ …… ความร้อน

– เดิมทีเดียว Facebook เกิดจาก Server ของ Mark Zuckerberg  ที่ตั้งอยู่ในหอพักของเค้าเพียงตัวเดียวเท่านั้น เมื่อเฟซบุคมีจำนวนแฟนๆถึงพันกว่าล้านคน สิ่งที่ Facebook จะต้องมีคือ Server จำนวนถึง 2 แสนกว่าเครื่องที่ตั้งอยู่ที่ตึก Data Center พื้นที่ขนาด 3 แสนตารางฟุต ใน ทะเลทราย Prineville รัฐ Oregon ลองคิดดูสิครับว่า แค่คอมพิวเตอร์ของเราเครื่องเดียว เปิดใช้งานเครื่องยังร้อนจนต้องปิดบ้าง  Server ของ Facebook เองต้องทำงาน 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด ความร้อนที่เกิดสะสมอยู่ในห้องเก็บ Server จะสูงมากขนาดไหน ยิ่งความร้อนมากคอมพิวเตอร์ก็จะล่มบ่อย เค้าแก้ไขปัญหานี้อย่างไร จะต้องเปิดแอร์ให้กับเครื่องพวกนี้ตลอดเวลา จะดีเหรอ ทางออกที่ชาญฉลาดและไม่ต้องใช้พลังงานและกระแสไฟฟ้าเพื่อมาสร้างความเย็นให้กับ Data Center แห่งนี้ก็คือ การหาที่ที่มีอากาศเย็นตลอดปีเพื่อใช้อากาศที่เย็นเข้ามาเป่าเพื่อลดความร้อนของ Data Center แห่งนี้ และสถานที่ที่ Facebook เลือกจึงเป็นทะเลทรายแห่งนึงในรัฐ […]

แผนที่ไร่บุญรอด สิงห์ปาร์ค เชียงราย แผนที่พร้อมคำอธิบาย

แผนที่ ไป ไร่บุญรอด

– ไร่บุญรอด หรือ สิงห์ปาร์ค เชียงราย เป็นกิจการด้าน Social Enterprise ที่สร้างงานให้กับคนและชุมชนรอบๆนับพันคนให้มีงานทำในการสร้างพื้นที่อันสวยงาม ปลูกพืชผักผลไม้ พันธุ์ไม้ดอกให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม สิงห์ปาร์ค เชียงรายจึงเป็น Social Enterprise ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ก่อนที่จะชมภาพของไร่บุญรอด(สิงห์ปาร์ค เชียงราย Social Enterprise)  เรามาดูแผนที่ไปไร่บุญรอด จังหวัดเชียงรายก่อนนะครับ 1. แผนที่ไปไร่บุญรอด(สิงห์ปาร์ค เชียงราย) หากท่านเดินทางมาจาก เชียงใหม่ ท่านก็จะใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) จาก แผนที่ไปไร่บุญรอด  ข้างบน เมื่อเดินทางมาใกล้จังหวัด เชียงรายในระยะทางอีกประมา 12 กิโลเมตร ท่านจะพบทางแยกถนนหมายเลข 1208 ท่าน ก็เลี้ยวซ้าย ผ่านวัดร่องขุ่นทางซ้ายมือก่อน ผ่านเข้าไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตรก็จะพบสามแยก ให้ท่านเลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 1211 ไปอีก 3 กิโลเมตร ท่านก็จะพบ ไร่บุญรอด(สิงห์ปาร์ค เชียงราย)  อยู่ทางซ้ายมือและมีรูปปั้นสิงห์ เด่นเป็นสง่าอยู่บนเนินครับ 2.แผนที่ไปไร่บุญรอด(สิงห์ปาร์ค […]

Google Glass คือ อุปกรณ์ที่จะทำให้ทุกคนเป็น Iron Man

Google Glass คือ อุปกรณ์ที่จะทำให้ทุกคนเป็น Iron Man

– Google Glass คืออะไร  Google Glass คือ แว่นตาที่มีส่วนการทำงานของ CPU ของคอมพิวเตอร์และตัวรับสัญญาณอินเตอร์เนทและส่วนการแสดงภาพ โดยการแสดงภาพจะแสดงผลไปที่แว่นตา ทำให้เราเห็นข้อมูล การแสดงผลบนแว่นที่ทำให้เราสามารถรับรู้ข้อมูลต่างๆได้โดยไม่ต้องละสายตาไปมองอุปกรณ์อื่นใด เช่น เมื่อเราเดินทางขึ้นไปบนสะพาน Brooklyn หากเราต้องการอยากจะรู้ข้อมูลว่าสะพานนี้มีระยะความยาวเป็นอย่างไร เราก็เพียงสั่งงานด้วยเสียงเพื่อสั่งให้เจ้า Google Glass ตอบสิ่งที่เราถามด้วยการแสดงผลข้อมูลไปบนแว่นของเรา Google Glass การทำงานต้องประกอบไปด้วยอะไรบ้าง องค์ประกอบหลักๆของ Google Glass ประกอบไปด้วยหลักๆคือ – CPU – Camera – Prism เพื่อการแสดงผลบนกระจกแว่น – Microphone เพื่อรับคำสั่งด้วยเสียงเรา – Speaker เพื่อแสดงเสียงให้เราได้ยิน – Battery Google Glass ทำงานอย่างไร หากเปรียบเทียบ Google Glass กับ iPad สิ่งที่ต่างออกไปคือการไม่มีจอแสดงผล แต่ การแสดงผลจะเป็นการแสดงผลจากการที่ CPU […]

การคิดนอกกรอบ กับ การต่อยอด ความคิด

– การคิดนอกกรอบ กับ การต่อยอด (บางทีมันก็ใช้เวลา) ในปีค.ศ. 1400 กว่าๆ ลีโอนาโด ดาวินชี่ถูกจ้างให้มาทำงานที่มิลาน อิตาลี พอเค้ามีเวลาว่างก็ไปเดินที่เทือกเขาแอลป์ เดินๆไปเกิดไปเจอ ฟอสซิล หอยปลาต่างๆที่ยอดเขา เค้าสรุปแบบค้านกับความเชื่อทางศาสนาว่า ยอดเขานี้ต้องเคยอยู่ใต้น้ำมาก่อน และ โลกเกิดมานานกว่าที่พระคัมภีร์ไบเบิ้ลบอกไว้ด้วย เป็นการคิดต่างแบบนอกกรอบสุดๆ ไม่มีใครในวันนั้นเชื่อความเห็น ความคิดนอกกรอบของเขา ศาสนาก็บอกว่า หอยปลาพวกนั้นโดนซัดมาจากทะเลตอนน้ำท่วมโลกเมื่อไม่กี่พันปีนี้ไง พวกศาสนาก็เลยเอาการเจอฟอสซิลไปตอกย้ำความเชื่อเรื่องเรือโนอาห์เสียอีก แต่ดาวินชี่ก็เถียง แต่ในวันนั้นไม่มีวิทยาการมากพอที่จะคัดง้างกัน 400 ปีต่อมา ผู้คนก็ไม่มองข้ามความเห็นของดาวินชี่ที่ต่างกับความเห็นส่วนใหญ่ เค้าไม่หัวเราะเยาะความคิดนั้น เค้าได้ต่อยอดความคิดต่าง จนค้นพบวิธีการที่บอกได้ว่าฟอสซิลบนยอดเขาแอลป์ อายุเป็นร้อยล้านปี และ โลกมีอายุมากกว่าที่พระคัมภีร์บอกจริงๆ ยังมีอีกหลายเรื่องที่ผมเคยอ่านมา ว่า เค้าไม่หัวเราะความคิดกัน และ สานต่อความคิดต่างนั้นเมื่อมีโอกาส โลกเราเลยเจริญแบบ”ต่อยอด”กันมาถึงทุกวันนี้ ชาวตะวันตก สืบเชื้อสายมาจากชาวกรีก ที่นิยมเถียงกันแต่ไม่โกรธกัน โลกชาวตะวันตกจึงเป็นแหล่งวิทยาการของโลก ในขณะที่ชาวเอเชีย นิยมความให้เกียรติ ไม่เน้นความขัดแย้ง ยอมๆกันไป ผู้ใหญ่พูดก็ต้องเชื่อแบบนั้น ชาวเอเชียจึงไม่เป็นผู้สร้างวิทยาการจากการต่อยอดความคิดให้โลกนี้เท่าไรนักครับ

ชวนเที่ยวเมืองชิโมดะ Shimoda เมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่คนไทยมองข้าม

– เมืองชิโมดะ เมืองแห่งแหลมชายทะเลแปซิฟิคแห่งนึงห่างจากโตเกียวไปทางใต้ นั่งรถไฟ 2 ทอดใช้เวลาประมาณ 1.50 ชั่วโมง เมืองนี้เป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่สำคัญเพราะ เป็นเมืองที่อยู่ในยุคสมัยที่ ฝรั่งมังค่า บุกมาทางเรือบังคับให้ญี่ปุ่นที่ปิดประเทศไปแล้ว 200ปี เปิดประเทศขึ้นมาใหม่ เพียงเพราะฝรั่งอยากจะค้าขาย อยากจะได้ประโยชน์จากประเทศญี่ปุ่น เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 160 ปีที่แล้ว มันช่างเหมือนตอนที่ฝรั่งเศสมาปิดอ่าวไทยเพื่อบังคับคนไทย อย่างไรอย่างนั้น นั่งรถจากโตเกียวมาลงที่สถานี Atami เมืองตากอากาศของญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียง เดิมทีก็งั้นๆแหละครับเมืองนี้ แต่พอตอนเค้าตัดสินใจว่ารถไฟชินกันเซ็นต้องแวะเมืองนี้สักหน่อยเท่านั้นแหละ บูมเลย ตอนนี้เมืองนี้เป็นเหมือนเมืองบริวารของโตเกียวคือ คนมาซื้อบ้านเพื่อเอาไว้พักเวลาเดินทางไปทำงานในวันธรรมดา มันใกล้ครับ แค่ 40 นาทีเท่านั้นเองจากโตเกียว จากรถไฟชินกันเซ็นสุดหรู เมื่อลงที่ Atami แล้วก็ไปต่อรถไฟฉึกฉักครับ เรียกว่าสาย Ito Line คราวนี้ก็มานั่งรถไฟแบบบ้านๆกันบ้างครับ เพียงแค่ว่า บ้านๆของญี่ปุ่นมันไม่ค่อยจะบ้านเท่าไหร่น่ะสิ สะอาดสะอ้าน แถมเค้ารู้ว่า ด้านซ้ายของเส้นทางรถไฟจะมีวิวสวยงาม เค้าเลยทำเก้าอี้ให้นั่งแบบ กันหน้าเข้าหาหน้าต่างเสียเลย จะได้ดูกันให้ชัดๆว่าสวยแค่ไหน คุ้มค่าการเดินทาง นี่เห็นกันเต็มๆ กระจกบานใหญ่ นั่งหันหน้าหากระจก แล้วว่าแต่ว่าจะเห็นวิวอะไรเหรอ เดี๋ยวดูกันต่อสัก 4-5 ภาพนะครับ […]

วิธีไปเที่ยวชมภูเขาไฟฟูจิด้วยตัวเอง แบบง่ายๆ ไม่ง้อทัวร์

– ไปฟูจิด้วยตัวเอง จากโตเกียว ไปเองไม่ง้อทัวร์ไม่ง้อใคร ไปอย่างไร บล็อกนี้จะมาเล่าวิธีเดินทางจากกรุงโตเกียวไปชมภูเขาไฟฟูจิแบบง่ายๆ ไปตามขั้นตอนนี้เลยครับ เข้าเรื่องเลยไม่ให้เสียเวลา ขั้นต้นเรามาเข้าใจก่อนว่า การไปชมภูเขาไฟฟูจินั้นมี 2 แบบคือ 1. ไปเหยียบภูเขาเลย 2. ไปชมภูเขาไฟฟูจิจากจุดชมวิวที่เค้าคัดสรรกันมาแล้ว บล็อกนี้จะเป็นแบบที่ 2. นะครับไปแบบที่เห็นภูเขาไฟฟูจิแบบเต็มตากันเลยครับ (โดยบล็อกนี้จะไปโดยรถไฟชินกันเซ็นแล้วไปต่อรถบัส ถือเป็นการเดินทางวิธีที่ 1 ส่วนวิธีที่สองไม่ได้ใช้ชินกันเซ็น คลิก ::: วิธีไปภูเขาไฟฟูจิด้วยตัวเอง ง่ายๆ ไม่ง้อทัวร์  วิธีที่ 2) เรามาดูกันก่อนเลยว่า จุดชมวิวภูเขาไฟฟูจินั้นมีจุดไหนกันบ้าง นั่นคือจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจินั้นมี 5 จุดตามทะเลสาป (Fujigoko) ที่อยู่รอบๆภูเขาไฟฟูจินั่นเองครับ ซึ่งได้แก่ Kawaguchiko, Saiko, Yamanakako, Shojiko และ Motosuko ซึ่งหากดูตามแผนที่ เจ้าทะเลสาปทั้ง 5 ก็จะเป็นบริเวณสีฟ้าๆรอบๆด้านบนของแผนที่นี่เองครับ โดยบรรดา 5 ทะเลสาปนี้ Kawaguchiko จะเป็นที่ชม ภูเขาไฟฟูจิได้อย่างสวยงาม ไปมาสดวก มีสิ่งอำนวยความสดวกครบครันมีจุดชมวิวที่ถ่ายภาพได้สวยมาก งั้นเราจะไปจุดนี้กันครับ แผนการเดินทางคือ […]

เสียงปะทัด ทำให้น้องหมากลัว ทำไงดี

หมากลัวปะทัด เสียงฟ้าผ่า พลุ

ช่วงตรุษจีนอย่างนี้ มีใครต้องประสพปัญหาน้องหมาตื่นตระหนกเมื่อมี เสียงประทัดหรือพลุบ้างไหมครับ หรือแม้กระทั่ง ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า หรือ หน้าหนาวก็จะมีลอยกระทงก็จะมีเสียงดังให้น้องหมาตกใจ  ไปค้นคว้ามาถึงวิธีแก้ครับ เอามาเล่าให้ฟังครับ 1. หมาไม่ได้แกล้งกลัวครับ มันกลัวจริงๆและควบคุมตัวเองไม่ได้ มันอาจอยากหาที่ปลอดภัยอยู่เช่นอยากอยู่ในบ้านหรืออาจกัดประตูเพื่อหาทางเข้าไปในที่ๆมันคิดว่ามันปลอดภัย 2. การลงโทษมันจะไม่ทำให้มันหายกลัว (เหมือนเรากลัวผี เราไม่หายกลัวเพราะโดนตีแน่ๆ) 3. การปลอบลูบเนื้อลูบตัวระหว่างที่มันตื่นกลัว ก็จะยิ่งทำให้มันคิดว่า มันทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว มันจะยิ่งทำตัวให้กลัวอีกวันหลัง เพื่อจะได้ให้เราลูบตัวอีก 4. ข้อแนะนำคือ ถ้าเรารู้ว่าวันนี้อาจมีฝนฟ้าคะนอง ถ้าเราพามันเดินเล่นให้เหนื่อย มันก็จะพอที่จะทำให้มันหมดแรงไปได้ 5. แต่ถ้าเราไม่ค่อยได้อยู่กับมัน เช่น มันต้องรอเราอยู่ที่บ้าน หากมีฝนตกฟ้าร้องมันก็กลัวจริงๆอยู่ตัวเดียวด้วย ทำไงดี เราก็ต้องฝึกมันให้หายกลัวครับ เขามีเทคนิคที่เรียกว่า desensitization โดยการเปิดเทปเสียงที่มันกลัวเช่นฟ้าร้องฟ้าผ่า แต่เปิดเบาๆแล้วพูดกับมันดีๆหรือมีอะไรให้กิน มันจะเริ่มรู้สึกว่าได้ยินเสียงแบบนี้แล้วมักมีอะไรดีๆตามมา จากนั้น ค่อยๆเพิ่มระดับเสียงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมันชินมันก็จะไม่กลัวครับ เทคนิคนี้ผู้เขียนเขาบอกว่าอาจไม่ 100% ก็ลองเอามาให้อ่านกันดูครับผม

%d bloggers like this: